ภรรยานายกฯ นางภคอร จันทรคณา ได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อกล่าวขออภัยต่อกรณีที่ตนเองได้กล่าวพูดเล่นกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า “จะคุกคามสื่อ” โดยยืนยันว่าสิ่งที่กล่าวไปนั้นเป็นเพียงการพูดเล่นและไม่ได้มีเจตนาคุกคามแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตระหนักดีว่าคำพูดดังกล่าวอาจดูไม่เหมาะสมในสถานการณ์นั้นๆ จึงพร้อมน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์และขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นที่สะท้อนมา เพื่อให้ตนเองได้นำไปปรับปรุงและระมัดระวังการใช้คำพูดให้มากขึ้นในอนาคต
ประเด็นสำคัญจาก: ภรรยานายกฯ โพสต์ขอขอภัยสื่อ แค่พูดเล่นปัดคุกคาม อาจดูไม่เหมาะ แต่พร้อมน้อมรับและขอบคุณทุกคำวิจารณ์
ประเด็นดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนางภคอร จันทรคณา ซึ่งเป็นภรรยาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมงานเลี้ยงรับรองผู้นำศาสนาอิสลาม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างที่สื่อมวลชนได้เข้าไปสอบถามความรู้สึกและสถานการณ์ทั่วไป นางภคอรได้กล่าวตอบในลักษณะหยอกล้อว่า “คุกคามสื่อ” ซึ่งคำพูดดังกล่าวได้ถูกบันทึกภาพและเสียงไว้ และถูกเผยแพร่ในวงกว้าง ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการใช้คำพูดดังกล่าวโดยบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการทำงานร่วมกับสื่อมวลชน ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญในการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูลต่อสาธารณะ
หลังจากการเกิดประเด็นดังกล่าวขึ้น ได้มีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายทั้งในแง่ของการเข้าใจว่าเป็นการพูดเล่น แต่บางส่วนก็มองว่าคำพูดดังกล่าวไม่เหมาะสมกับสถานะและบทบาทในสังคม ถึงแม้จะเป็นการพูดเล่นก็ตาม สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังของสังคมที่มีต่อบุคคลสาธารณะที่ต้องระมัดระวังในการใช้คำพูดและการแสดงออก เพื่อป้องกันการตีความที่ผิดพลาดหรือสร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องปฏิสัมพันธ์กับสื่อมวลชนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นช่องทางสื่อสารระหว่างรัฐบาลและประชาชน การสร้างบรรยากาศที่ดีและปราศจากความรู้สึกกดดันหรือคุกคามในการทำงานร่วมกันจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
การที่นางภคอรออกมาโพสต์ขออภัยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้และความรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเองในฐานะบุคคลสาธารณะ ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความเข้าใจและยอมรับในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐและสื่อมวลชน รวมถึงการสร้างความไว้วางใจจากสาธารณชน การยอมรับและแก้ไขข้อผิดพลาดเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและลดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดในประเด็นต่างๆ
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
เหตุการณ์นี้นับเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญเกี่ยวกับบทบาทและการวางตัวของบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่ใกล้ชิดกับตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของประเทศ สังคมมีความคาดหวังสูงต่อการแสดงออกและคำพูดของบุคคลเหล่านี้ เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อบรรยากาศและทัศนคติสาธารณะได้ การเลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมและปราศจากนัยยะที่อาจถูกตีความไปในทางลบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การที่นางภคอรได้ออกมาขอโทษและชี้แจงว่าเป็นการพูดเล่นนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสื่อสารเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การยอมรับว่าคำพูดดังกล่าวอาจดูไม่เหมาะสมนั้น ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการปรับปรุงและทำความเข้าใจถึงผลกระทบของคำพูดที่มีต่อผู้รับสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอข่าวสาร
การแสดงออกดังกล่าวของภรรยานายกฯ ยังเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความท้าทายในการสื่อสารในยุคปัจจุบัน ที่ทุกคำพูดสามารถถูกบันทึกและเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทำให้การตีความและการรับรู้ข่าวสารจากสาธารณชนเป็นไปอย่างกว้างขวางและหลากหลาย การตอบสนองต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ด้วยการน้อมรับและขออภัยนั้น เป็นแนวทางที่แสดงถึงความจริงใจและเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นจากสังคม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับบุคคลสาธารณะในการสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากทุกภาคส่วน
สรุปข่าวทั้งหมด
เหตุการณ์ที่นางภคอร จันทรคณา ภรรยานายกรัฐมนตรี กล่าวคำว่า “คุกคามสื่อ” ในลักษณะพูดเล่น ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการใช้ภาษาของบุคคลสาธารณะ แม้จะเป็นการพูดเล่น แต่การตระหนักถึงผลกระทบและออกมากล่าวขออภัยพร้อมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความเข้าใจในบทบาทของตนเอง การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความเข้าใจผิด แต่ยังส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และระมัดระวังในการสื่อสารในอนาคต ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้คำพูดอย่างรอบคอบของผู้อยู่ในตำแหน่งที่ได้รับความสนใจจากสาธารณะ เพื่อธำรงไว้ซึ่งบรรยากาศของการทำงานร่วมกันและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ









