“บิ๊กเล็ก” หรือพลเอก ธิติชัย เทียนทอง เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ออกมาย้ำชัดถึงสถานะของปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยเตรียมดำเนินนโยบายทวงคืนพื้นที่ดังกล่าวด้วยแนวทางสันติวิธีเป็นลำดับแรก หากการเจรจาหรือช่องทางทางการทูตไม่ประสบผลสำเร็จ อาจพิจารณาการใช้มาตรการที่เด็ดขาดกว่าเดิม รวมถึงการใช้กำลังทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ในขณะที่ประเด็นของปราสาทโคนา ซึ่งมีความทับซ้อนทางประวัติศาสตร์และพื้นที่ระหว่างประเทศนั้น ยังไม่ถูกจัดอยู่ในแผนเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปัจจุบัน เนื่องจากยังไม่มีการละเมิดอำนาจอธิปไตยหรือการแทรกแซงจากฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นท่าทีที่ชัดเจนจากผลการตรวจสอบและยืนยันสถานะแห่งอธิปไตยของพื้นที่ชายแดนสำคัญแห่งนี้
ประเด็นสำคัญ: การยืนยันสิทธิ์เหนือปราสาทตาควายและตาเมือนธม
พลเอก ธิติชัย เทียนทอง ได้เน้นย้ำถึงหลักฐานทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า ปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธมอีสานนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยมาโดยตลอด แม้จะมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว แต่คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ประมวลผลข้อมูลและพิจารณาจากแผนที่ แผนที่แนวเส้น เขตแดน รวมถึงหลักฐานทาง โบราณคดีที่เกี่ยวโยงกับ สุสาน ของบรรพบุรุษ อันเป็นที่เคารพนับถือของคนในพื้นที่ ทำให้เกิดความมั่นใจในการยืนยันสิทธิ์ของไทยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง หลักฐานเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการกำหนดแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลไทยเพื่อปกป้องและทวงคืนพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เป็นของไทยโดยชอบธรรม ซึ่งจะเน้นการใช้แนวทางสันติวิธีและการเจรจาระหว่างประเทศในกรอบที่ยอมรับได้ในระดับสากล.
การดำเนินการเพื่อทวงคืนพื้นที่ปราสาทตาควายและตาเมือนธม ถือเป็นวาระสำคัญของชาติ เนื่องจากไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีและอธิปไตยของประเทศ แนวทางแรกที่รัฐบาลจะเลือกใช้คือการเจรจาทางการทูตกับประเทศกัมพูชา โดยเน้นการนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจน และหาข้อยุติที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หากการเจรจาไม่ประสบผลตามที่คาดหวัง หรือไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม รัฐบาลไทยก็มีความพร้อมที่จะพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมายระหว่างประเทศ หรือแม้แต่มาตรการที่มีอำนาจเด็ดขาดอื่น ๆ รวมถึงการใช้กำลังเพื่อรักษาอธิปไตย หากมีความจำเป็นและเป็นไปตามหลักการป้องกันตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ไม่สามารถตัดทิ้งได้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว
รายละเอียดต่อยอด: สถานะของปราสาทโคนาและการเตรียมความพร้อมของกำลังพล
เกี่ยวกับปราสาทโคนา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นปัญหาที่เคยมีการกล่าวถึง พลเอก ธิติชัย ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ใดๆ ที่บ่งชี้ถึงการละเมิดอำนาจอธิปไตยหรือการรุกล้ำจากฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ปราสาทโคนา ดังนั้น การดำเนินการในส่วนนี้จึงยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในทันที รัฐบาลไทยจะยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมในการตอบสนองต่อทุกรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น โดยไม่ประมาทต่อสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนบริเวณชายแดน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการรับมือ เพื่อหลีกเลี่ยงการบานปลายของความขัดแย้ง และรักษาสันติภาพในภูมิภาค.
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมของกองทัพ พลเอก ธิติชัย ได้ยืนยันว่า กองทัพไทยยังคงรักษากำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตอบโต้การรุกราน หรือการปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน รวมถึงการ ให้ความช่วยเหลือประชาชนและงานด้านมวลชนสัมพันธ์ การเตรียมความพร้อมนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การใช้กำลังทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการข่าวกรอง การประเมินสถานการณ์ และการวางแผนที่รัดกุม เพื่อให้สามารถตัดสินใจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ในทุกๆ สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
สรุปข่าวทั้งหมด: การทวงคืนอธิปไตยและการรักษาสันติภาพชายแดน
สรุปโดยรวมแล้ว รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ “บิ๊กเล็ก” ได้ยืนยันจุดยืนที่ชัดเจนต่อปราสาทตาควายและตาเมือนธม โดยถือเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทยและจะดำเนินการทวงคืนด้วยสันติวิธีเป็นอันดับแรก แต่ก็มิได้ตัดทางเลือกในการใช้มาตรการที่เด็ดขาดกว่าหากจำเป็น ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของชาติ ขณะเดียวกัน ปราสาทโคนาซึ่งยังไม่มีสถานการณ์เร่งด่วน ก็จะยังคงอยู่ในแผนการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยมีการเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับทุกความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นตามแนวชายแดน ไทยยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาสันติภาพและการแก้ไขปัญหาด้วยหลักการสากล แต่ก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยอย่างถึงที่สุด หากความพยายามในการเจรจาไม่เป็นผล.









