
BAM หรือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (มหาชน) ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มตลาดบ้านมือสองที่ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในช่วงชะลอตัวก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการเติบโตนี้ส่งผลให้ BAM สามารถทำผลงานได้ดีเกินเป้าหมายที่วางไว้สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณ โดยพบว่าสามารถจัดเก็บเงินสดได้สูงถึง 4,213 ล้านบาท หรือคิดเป็น 115% ของเป้าหมาย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองและความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ แม้จะมีปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจ.
ประเด็นสำคัญจาก: BAM ชี้ตลาดบ้านมือสองยังแรง แม้เศรษฐกิจชะลอ ต่างชาติยังโอนคอนโดพุ่ง
ตลาดบ้านมือสองในประเทศไทยยังคงรักษาระดับความต้องการที่สูง แม้ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและมีภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวม อย่างไรก็ตาม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มือสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่อยู่อาศัยที่ราคาย่อมเยาและมีทำเลที่น่าสนใจ ยังคงเป็นทางเลือกหลักสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านราคาที่ต่ำกว่าและมักจะเป็นทรัพย์สินที่ขายต่ำกว่าราคาตลาด.
นอกจากนี้ รายงานยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของนักลงทุนชาวต่างชาติในตลาดคอนโดมิเนียม โดยพบว่าสถิติการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมให้แก่ชาวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนและมาตรการที่ผ่อนคลายสำหรับชาวต่างชาติในการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย แนวโน้มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม แต่ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ทำให้ BAM สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์รอการขาย (NPA) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำยอดขายเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้.
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของ BAM ในไตรมาสแรกที่สามารถจัดเก็บเงินสดได้ 4,213 ล้านบาทนั้น ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์และการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์รอการขายให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึงการนำเสนออสังหาริมทรัพย์ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านราคาและทำเล เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนภายในประเทศ ผู้ประกอบการรายย่อย หรือแม้กระทั่งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง BAM ยังคงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลทรัพย์สินสำหรับผู้สนใจ.
การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญยังเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมักจะมองหาโอกาสในการลงทุนระยะยาวในประเทศที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้ การเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติยังช่วยเพิ่มมูลค่าและสภาพคล่องให้กับตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่เกี่ยวข้อง.
สรุปข่าวทั้งหมด
แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ แต่ตลาดบ้านมือสองยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยแรงหนุนจากการซื้อคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (BAM) ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและทำผลงานได้เกินเป้าหมาย โดยสามารถจัดเก็บเงินสดได้ถึง 4,213 ล้านบาทในไตรมาสแรก ซึ่งการเติบโตนี้เป็นการสะท้อนถึงโอกาสและความต้องการในตลาดบ้านมือสองที่ยังคงมีอยู่สูง รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่ออสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเฝ้าระวังและติดตามเพื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป.









